ไฟฟ้าถือเป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาเปลี่ยนชีวิตของมนุษย์ ตั้งแต่ความสะดวกสบายของแสงที่ส่องสว่างทันทีเพียงกดสวิตช์ไปจนถึงอุปกรณ์และเครื่องใช้จำนวนนับไม่ถ้วนที่ช่วยให้บ้านของเราทำงานได้อย่างราบรื่น อิทธิพลของไฟฟ้านั้นไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าทำให้มนุษย์พัฒนาไปอีกขั้น
อย่างไรก็ตาม ทรัพยากรที่สำคัญนี้มาพร้อมกับอันตรายมากมาย การตระหนักถึงอันตรายเหล่านี้เป็นก้าวแรกในการรับรองความปลอดภัยของครอบครัวและบ้านของคุณ
1. วงจรโอเวอร์โหลด
สาเหตุสำคัญประการหนึ่งของการเกิดเพลิงไหม้ในครัวเรือนคือวงจรไฟฟ้าโอเวอร์โหลด สิ่งนี้เกิดขึ้นเมื่ออุปกรณ์ไฟฟ้าจำนวนมากเกินไปดึงพลังงานจากแหล่งเดียว
การป้องกัน: หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ที่มีกำลังไฟสูงหลายตัวในวงจรเดียว หากเบรกเกอร์ตัดการทำงานหรือฟิวส์ขาดบ่อยครั้ง นี่อาจเป็นสัญญาณของการโอเวอร์โหลด และแนะนำให้ปรึกษาช่างไฟฟ้า
2. สายไฟชำรุดหรือหลุดลุ่ย
สายไฟที่ชำรุด หลุดลุ่ย อาจจะทำให้คุณเผลอไปสัมผัสกับกระแสไฟฟ้าและถูกไฟช็อต มีโอกาสถึงแก่ชีวิตได้ นอกจากนี้กระแสไฟฟ้าที่ไหลออกมาก็อาจจะก่อให้เกิดเพลิงไหม้ได้เช่นกัน
การป้องกัน: ตรวจสอบสายไฟของเครื่องใช้ไฟฟ้าของคุณเป็นประจำ หากพบว่ามีความเสียหายเพียงเล็กน้อย ให้รีบเปลี่ยนหรือโทรเรียกช่างทันที
3. การใช้ปลั๊กพ่วงมากเกินไป
แม้ว่าจะให้ความสะดวกสบาย แต่การใช้สายไฟต่อพ่วงเป็นอุปกรณ์จ่ายไฟแบบถาวรอาจเป็นอันตรายได้ เนื่องจากปลั๊กพ่วงมันไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ใช้งานเป็นระยะเวลานาน ๆ มีโอกาสไฟช็อตหรือไฟลัดวงจรได้ง่าย
การป้องกัน: ปลั๊กพ่วงควรเป็นวิธีการแก้ปัญหาชั่วคราว หากคุณพบว่าจำเป็นต้องใช้บ่อยๆ ให้ลองติดต่อช่างเพื่อเพิ่ม socket ปลั๊กไฟแทนที่จะใช้ปลั๊กพ่วง
4. มีน้ำใกล้เต้ารับไฟฟ้า
น้ำเป็นตัวนำไฟฟ้าที่ดีเยี่ยม หากตั้งอยู่ใกล้กับเต้ารับไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ต่างๆ อาจทำให้เกิดไฟฟ้าช็อตได้
การป้องกัน: เก็บอุปกรณ์ไฟฟ้าให้ห่างจากแหล่งน้ำเสมอ หากมีงบแนะนำให้ติดตั้งเครื่องขัดขวางวงจรกราวด์ฟอลต์ (GFCI) ในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อความชื้น เช่น ห้องน้ำและห้องครัว
5. การเดินสายไฟที่ไม่ได้ประสิทธิภาพ
บ้านที่สายไฟเก่าหรือเดินได้ไม่ดีพออาจเสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้และไฟฟ้าช็อตได้
การป้องกัน: หากบ้านของคุณมีอายุเกิน 20 ปี แนะนำให้โทรเรียกช่างเพื่อตรวจสอบระบบไฟฟ้า หากพบไฟกะพริบ กลิ่นไหม้ หรือเบรกเกอร์ตัดการทำงานบ่อยครั้ง นี่อาจจะแปลว่าบ้านของคุณรับเทคโนโลยีสมัยใหม่ไม่ไหวแล้ว
6. เซอร์กิตเบรกเกอร์หรือฟิวส์ติดตั้งไม่ถูกต้อง
เซอร์กิตเบรกเกอร์และฟิวส์ที่ไม่ได้รับการติดตั้งอย่างถูกต้องอาจไม่สามารถป้องกันวงจรไม่ให้มีโหลดมากเกินไป ส่งผลให้เกิดเพลิงไหม้ได้
การป้องกัน: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเซอร์กิตเบรกเกอร์และฟิวส์ของคุณได้รับการติดตั้งอย่างเหมาะสมสำหรับการใช้งานตามวัตถุประสงค์ สามารถสอบถามกับช่างไฟฟ้าได้
7. การใช้หลอดไฟอย่างไม่เหมาะสม
การใช้หลอดไฟที่มีกำลังไฟสูงเกินไปสำหรับโคมไฟอาจทำให้เกิดความร้อนสูงเกินไปและอาจทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้
การป้องกัน: ตรวจสอบกำลังไฟสูงสุดที่แนะนำสำหรับอุปกรณ์ให้แสงสว่างทุกครั้ง เช่น โคมไฟบางชนิดอาจจะไม่สามารถใช้หลอดไฟบางชนิดได้
8. เต้ารับไฟฟ้าที่ไม่มีฝาปิด
ปลั๊กไฟแบบเปิดอาจดึงดูดให้เด็กๆ เอานิ้วไปแหย่เพราะมักจะคิดว่าเป็นของเล่น ซึ่งอาจนำไปสู่ไฟฟ้าช็อตได้
การป้องกัน: หาอุปกรณ์หรือฝามาปิดเต้ารับไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้ทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีเด็กเล็กในบ้าน
9. ปลั๊กไฟที่ล้าสมัย
ปลั๊กไฟแบบสองขาถือเป็นมรดกตกทอดจากอดีตหลายสิบปีและไม่สามารถต่อสายดินได้ เป็นเทคโนโลยีเก่าซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดไฟฟ้าช็อตได้
การป้องกัน: อัปเกรดเป็นเต้ารับแบบสามขาและต่อสายดินให้เรียบร้อย แนะนำให้โทรเรียกช่างเพื่อความปลอดภัย
10. เครื่องใช้ไฟฟ้าชำรุด
โดยปกติแล้วเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ว่าจะแพงหรือมีแบรนด์ที่น่าเชื่อถือแค่ไหนเมื่อเวลาผ่านไปก็จะชำรุดและมีโอกาสที่ไฟฟ้าจะลัดวงจรได้
การป้องกัน: ตรวจสอบและบำรุงรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้าของคุณเป็นประจำ หากเครื่องใช้ไฟฟ้าเกิดประกายไฟ ร้อนเกินไป หรือทำงานผิดปกติ ให้ถอดปลั๊กออกแล้วนำไปตรวจสอบกับช่างหรือเปลี่ยนใหม่